หากย้อนไปเมื่อปี พ.ศ. 2553 ข่าวที่เป็นที่กล่าวถึงมากที่สุดแห่งปีคงเป็นอะไรไม่ได้นอกจากข่าว “เด็กสาววัย 17 ซิ่ง 9 ศพ” เหตุเกิดคืนวันที่ 27 ธ.ค. 2553 รถเก๋ง 4 ล้อ ซึ่งขับโดยเด็กสาวอายุ 17 ปี แล่นมาด้วยความเร็วสูงพุ่งเข้าชนท้ายรถตู้โดยสาร (ธรรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต-หมอชิต)บนโทลเวย์ ทำให้รถตู้คันดังกล่าวฟาดกับขอบทางโทลเวย์อย่างแรง มีผู้โดยสารกระเด็นออกจากรถ ส่วนเด็กสาวบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งยังมีการแชร์ภาพพร้อมทั้งวิจารณ์“เด็กสาวยืนเล่นมือถือหลังจากเกิดเหตุ”อย่างแพร่หลายทางโลกโซเชี่ยลมีเดีย ล่าสุดศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาให้เพิ่มเวลารอลงอาญาจากเดิม 3 ปี เป็น 4 ปี และคุมประพฤติ 3 ปี พร้อมทั้งทำงานบริการสังคม จำนวน 140 ชั่วโมง รวมถึงห้ามขับรถจนอายุ 25 ปี แต่ช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบว่า เด็กสาวคนดังกล่าวมารายงานตัว แต่กลับไม่ได้ทำงานบริการสังคม
สาเหตุ: เหตุการณ์นี้เกิดจากความประมาทในการขับรถ อีกทั้งผู้ก่อเหตุมีอายุเพียง 17 ปีเท่านั้น ย่อมปรากฏชัดว่าขับรถโดย“ขาดประสบการณ์และไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์” ซึ่งจะออกให้สำหรับบุคคลอายุสิบแปดปีขึ้นไปเท่านั้น
ผล: ผู้โดยสารมีทั้งหมด 14 คน ซึ่งจากการชนกันอย่างรุนแรง ทำให้มีผู้โดยสารกระเด็นออกจากรถ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 คน และบาดเจ็บ 5 คน
วิธีแก้ไข: ผู้ปกครองควรควบคุมดูแลบุตรอย่างใกล้ชิดและให้ความรู้ เรื่อง กฎของการใช้รถใช้ถนน รวมถึงให้มีการควบคุมความเร็วในการขับขี่และควรห้ามปรามหากบุตรยังไม่มีวุฒิภาวะในการขับรถ เพื่อป้องกันความเสียหายของชีวิตและทรัพย์สินที่จะเกิดขึ้นกับผู้อื่น
สังคมออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปอย่างมากมายเกี่ยวกับ “บิ๊กไบค์ ชนคนที่กำลังเดินข้ามถนนดับ เหตุเกิดวันที่ 12 มี.ค. 2559 ที่ผ่านมา กลางย่านชุมชน ต.แม่ขะจาน อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย เป็นเหตุการณ์ที่ผู้หญิง 2 คน และเด็กอีก 1 คน กำลังพากันข้ามถนนสายหลักไปได้ครึ่งทางหลังจากเสร็จจากการเลือกซื้อของ ทันใดนั้นมีรถจักรยานยนต์ “บิ๊กไบค์”พุ่งมาด้วยความเร็วสูง ก่อนพุ่งชนคนที่กำลังเดินข้ามถนนอย่างแรง
สาเหตุ: เป็นที่ชัดเจนว่าเหตุการณ์นี้สาเหตุหลักคือมาจากการขับรถเร็วในเขตชุมชนซึ่งมีคนพลุกพล่าน จนทำให้ไม่สามารถควบคุมการขับขี่ได้กระทั่งชนผู้ที่กำลังเดินข้ามถนนอย่างแรง
ผล: “บิ๊กไบค์” ได้ทยานมาด้วยความเร็วสูง จึงชนเข้ากับคนที่กำลังเดินข้ามถนนดังกล่าวอย่างแรง เป็นเหตุให้ผู้เป็นแม่เสียชีวิตคาที่ต่อหน้าลูกสาวซึ่งรอดอย่างหวุดหวิด
วิธีแก้ไข: ควรจำกัดความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด คือ 60 กม./ชม. สำหรับในเขตชุมชน เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน
เมื่อวันที่ 10 พ.ย. พ.ศ. 2558 เกิดอุบัติเหตุรถชนกัน 5 คัน บนถนนพหลโยธินฝั่งขาออก ใกล้กับตึกช้างก่อนถึงแยกรัชโยธิน จากการสอบสวนพบว่ารถบรรทุกปูน พุ่งชนท้ายรถแท็กซี่ ทำให้รถแท็กซี่อัดก็อปปี้อยู่ใต้ท้องรถเมล์โดยสาร ขณะที่รถเมล์โดยสารยังชนท้ายรถข้างหน้าอีก 2 คันข้างหน้า ส่วนคนขับแท็กซี่บาดเจ็บสาหัส 1 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว
สาเหตุ: รถพ่วง 6 ล้อบรรทุกปูนซีเมนต์เกิดอุบัติเหตุเบรกแตกขณะชะลอจอดระหว่างรอสัญญาณไฟจราจร ส่งผลให้พุ่งชนกับแท็กซี่
ผล: จากเหตุการณ์นี้ซึ่งมีรถชนกันถึง 5 คันรวดโดยเฉพาะรถแท็กซี่ได้รับความเสียหายมาก ส่วนคนขับเพียงแค่บาดเจ็บ นอกจากนี้ยังส่งผลให้การจราจรบนถนนดังกล่าวติดขัดเป็นอย่างมาก
วิธีแก้ไข: ผู้ขับขี่ควรมีการตรวจสอบสภาพรถอย่างสม่ำเสมอ หากพบความผิดปกติก็ควรนำรถเข้าศูนย์ซ่อมเพื่อตรวจสอบทันที เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับทั้งตนเองและผู้ใช้ถนนท่านอื่น
ในสังคมออนไลน์มีการส่งต่อคลิปและกล่าวถึงเป็นอย่างมากเกี่ยวกับคดีของ “ดีเจเกียร์อาร์” เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2559 บริเวณถนนมิตรไมตรี ทางเข้าสนามกีฬาญี่ปุ่นดินแดงรถกระบะของดีเจเกียร์อาร์ได้ขับนำเก๋งหนุ่มคู่กรณีมาตามถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า จากนั้นทั้ง 2 คันได้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนมิตรไมตรี โดยรถเก๋งได้ขับแซงออกมาเลนขวาสุดซึ่งเป็นเลนสวน และได้พยายามแทรกเข้าด้านหน้ารถกระบะ แต่รถกระบะไม่ยอมให้เข้า จากนั้นเมื่อการจราจรเคลื่อนตัว รถเก๋งได้แทรกเข้าหลังรถกระบะ จากนั้นหนุ่มคู่กรณีได้ลงจากรถและเดินไปที่เคาะกระจกรถกระบะที่จอดอยู่ด้านหน้า และจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ ดีเจเกียร์อาร์ไม่พอใจ ก่อนเกิดเหตุการณ์รถกระบะถอยชนรถเก๋งตามคลิปที่มีการแพร่ออกไป
สาเหตุ: กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องของการขับรถที่ไม่มีใครยอมใคร ไม่ให้ทางกัน รวมถึงการรวบรวมอารมณ์ขณะขับรถ
ผล: รถเก๋งได้รับความเสียหายจากการถอยมาชนถึง 2 ครั้ง และผู้ก่อเหตุทั้งสองได้ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
วิธีแก้ไข: ผู้ขับขี่ควรเคารพกฎจราจร นอกจากนี้ยังควรมีน้ำใจกับเพื่อนร่วมทางและอย่าใช้อารมณ์มาตัดสิน เพราะหากมีอาวุธก็อาจจะนำไปสู่ความสูญเสียมากกว่านี้ได้
กลายเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลกหลังมีเหตุการณ์นักปั่นรอบโลกถูกรถชนดับที่ไทยถึง 2 ครั้งด้วยกัน โดยเกิดเมื่อปี 2556 มี 2 สามีภรรยาชาวอังกฤษซึ่งเป็นนักปั่นรอบโลกประสบเหตุถูกรถกระบะชนเสียชีวิต บริเวณอ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา และต่อมาวันที่ 21 ก.พ. 2558 ก็ได้รับแจ้งมีรถกระบะเฉี่ยวชนรถจักรยานบนถนนมิตรภาพ จนเป็นเหตุให้นายฮวน ฟราสซิสโก นักปั่นจักรยานชาวชิลี ซึ่งอยู่ในระหว่างการทำสถิติลงกินเนสเวิลด์เรคคอร์ด 5 ทวีปภายใน 5 ปี ระยะทาง 250,000 กิโลเมตร เสียชีวิตลง ส่วนภรรยาและลูกวัย 2 ขวบ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
สาเหตุ: จากการสอบสวน ทราบว่า รถกระบะคันดังกล่าวเมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุผู้ขับไม่ทันมองเห็นรถจักรยานของผู้ตายที่ปั่นอยู่ริมถนน จึงทำให้เฉี่ยวชนรถจักรยานคันดังกล่าว ซึ่งถือว่าเกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ผล: อุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ซึ่งเป็นนักปั่นรอบโลก ส่วนภรรยาและลูกได้รับบาดเจ็บ นอกจากนั้นเหตุการณ์นี้ยังเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของประเทศไทยต่อสายตาคนทั้งโลกอีกด้วย
วิธีแก้ไข: ในการขับรถทุกครั้งควรมีสติและไม่ควรขับรถโดยประมาท ซึ่งอาจเป็นสาเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังเช่นกรณีนี้เป็นต้น รวมถึงความเร็วในการขับขี่ไม่ควรเกิน 120 กม./ชม. สำหรับขับบนมอเตอร์เวย์ ทางหลวงแผ่นดิน และทางหลวงชนบท หากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นก็จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้
กลายเป็นข่าวใหญ่แห่งปีในขณะนี้สำหรับกรณี เบนซ์ซิ่งชนฟอร์ด เมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2559 เกิดเหตุการณ์รถเบนซ์ชนรถเก๋งฟอร์ดจนด้านท้ายยุบไปถึงห้องโดยสารที่นั่งคนขับ จากนั้นเกิดเพลิงลุกไหม้อย่ารวดเร็วเนื่องจากรถมีการติดตั้งถังแก๊ส โดยในภายหลังพบว่ามีศพ 2 ชายหญิง ซึ่งเป็นนักศึกษาป.โท อยู่บริเวณที่นั่งคนขับ ส่วนรถเบนซ์พบห่างออกไปประมาณ 500 เมตร สภาพหงายท้องด้านหน้าพังยับเยิน ภายในมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้ง 8 ข้อกล่าวหาแก่เสี่ยเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งก่อนเกิดเหตุเสี่ยได้ขับผ่านช่องทางเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติของด่านพระราม 4 และชนฝ่าไม้กั้นออกไป เนื่องจากขับมาด้วยความเร็วสูงจึงทำให้บัตรและกล่องรับสัญญาณไม่เชื่อมต่อกัน ไม้กั้นจึงไม่เปิด ล่าสุด กทพ. ได้ส่งหลักฐานข้อมูลเพื่อเรียกร้องค่าผ่านทางจำนวน 50 บาท จากผู้ใช้บัตร
สาเหตุ: สาเหตุหลักที่เห็นได้อย่างชัดเจนของคดีนี้คือ การขับรถเร็ว ซึ่งจากผลการตรวจสอบพบว่าสูงถึง 215 – 257 กม./ชม. อีกทั้งผู้ก่อเหตุไม่ยินยอมให้ตำรวจตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ โดยในทางกฎหมายจะสันนิษฐานเบื้องต้นว่าผู้ก่อเหตุได้ดื่มสุรามา
ผล: อุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้นักศึกษาป.โท เสียชีวิตถึง 2 คน ส่วนเสี่ยได้รับบาดเจ็บ
วิธีแก้ไข: ความเร็วในการขับรถและความพร้อมของผู้ขับขี่นับว่าเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าหากผู้ขับขี่ไม่มีสติหรือไม่มีความพร้อมก็ควรหลีกเลี่ยงการขับรถ และควรจำกัดความเร็วของการขับรถเพื่อที่จะสามารถควบคุมรถได้ทันท่วงทีหากเกิดกรณีฉุกเฉินขึ้น