สถานการณ์น้ำท่วมในประเทศไทย (เดือนสิงหาคม ปี 2024)

August 22, 2024
Hayaki Ezaki
No tag assigned

สถานการณ์น้ำท่วมในประเทศไทย (เดือนสิงหาคม ปี 2024)

(สรุป)

  • สามเดือนผ่านไปนับตั้งแต่ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม จากการบรรจบกันของปรากฏการณ์เอลนีโญและการเริ่มต้นของฤดูฝน ทำให้ปริมาณน้ำฝนเพิ่มอย่างมากทั่วประเทศ ความกังวลเกี่ยวกับภัยแล้งที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปีที่แล้วได้เริ่มคลี่คลายแต่ทว่าในทางกลับกันอัตราการกักเก็บน้ำในเขื่อนหลักในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาและอ่างเก็บน้ำในบริเวณภาคตะวันออกมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีความจำเป็นต้องจับตาดูปริมาณการกักเก็บน้ำและการปล่อยน้ำที่อาจเพิ่มขึ้นในอนาคต
  • ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกของประเทศไทย ปริมาณฝนสะสมได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ต้นฤดูฝน ส่งผลให้ปริมาณฝนสะสมสูงกว่าปกติ โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณภาคตะวันออกตั้งแต่ช่วงกรกฎาคมถึงต้นเดือนสิงหาคมมีรายงานเหตุการณ์น้ำท่วม เช่น น้ำท่วมฉับพลันหลายครั้ง
  • กรมอุตุนิยมวิทยา (TMD) คาดการณ์ปริมาณฝนเดือนสิงหาคม-ตุลาคมทั่วประเทศไทยนั้นมีปริมาณมากกว่าปีที่ผ่านมา 5% จึงมีความจำเป็นต้องเฝ้าระวังเหตุการณ์น้ำท่วมในบริเวณใกล้เคียงกับแม่น้ำ, คลองหรือในพื้นที่ราบลุ่มจนถึงช่วงสิ้นสุดฤดูฝน

 

การคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนในช่วงครึ่งหลังของฤดูฝน (เดือนสิงหาคม – เดือนตุลาคม) ปี 2024
กรมอุตุนิยมวิทยา (TMD: Thai Meteorological Department)

ประกาศคาดการณ์สถานการณ์ในช่วง 3 เดือนในปลายเดือนกรกฏาคม ซึ่งปริมาณน้ำฝนในช่วง 3 เดือนจากเดือนสิงหาคม – เดือนตุลาคมนั้นจะมากกว่าค่าปกติของปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยทั่วประเทศ 5%  ปริมาณน้ำฝนโดยประมาณตามภูมิภาคมีดังนี้:

ภาคเหนือ                                         550-650 มม. (ค่าปกติ 577 มม.)

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ                600-700 มม. (ค่าปกติ 636 มม.)

ภาคกลาง                                         550-650 มม. (ค่าปกติ 571 มม.)

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล      800-900 มม. (ค่าปกติ 782 มม.)

ภาคตะวันออก                                 850-950 มม. (ค่าปกติ 856 มม.)

ภาคใต้(ฝั่งอ่าวไทย)                       500-600 มม. (ค่าปกติ 531 มม.)

ภาคใต้(ฝั่งอันดามัน)                      1,200-1,300 มม. (ค่าปกติ 1,217 มม.)

ภาพด้านล่างเป็นภาพแผนที่ประเทศไทยที่มีการแสดงปริมาณน้ำฝนในแต่ละเดือน ในเดือนสิงหาคมพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกมีปริมาณน้ำฝนเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับค่าปกติ และมีการคาดการณ์ว่าในเดือนตุลาคมจะมีปริมาณน้ำฝนเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับค่าปกติในทั่วประเทศ อีกทั้งยังมีข้อน่ากังวลใจที่ปริมาณฝนจะเพิ่มมากขึ้นในเดือนกันยายนเนื่องจากการเข้าใกล้ของพายุหมุนเขตร้อน

การเปลี่ยนผ่านของปรากฏการณ์เอลนีโญไปยังปรากฏการณ์ลานีญา

เอลนีโญ/ลานีญา เป็นปรากฏการณ์ที่อุณหภูมิพื้นผิวน้ำทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกบริเวณเส้นศูนย์สูตรตอนกลางและตะวันออกสูงหรือต่ำกว่าปกติเป็นเวลาหลายเดือนถึงหนึ่งปี ปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีญาถือเป็นสาเหตุของสภาพอากาศที่ผิดปกติทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยและญี่ปุ่น

ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ประเทศไทย ในระยะที่เกิดปรากฏการณ์เอลนีโญมีแนวโน้มที่จะแห้งแล้ง โดยมีอุณหภูมิสูงและมีฝนตกน้อย ในขณะที่ช่วงเกิดปรากฏการณ์ลานีญามีแนวโน้มที่จะมีอุณหภูมิต่ำและมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้น จากผลการวิจัยที่ตีพิมพ์โดย TMD การวิเคราะห์ข้อมูลปริมาณน้ำฝนและอุณหภูมิรายเดือนเป็นเวลา 50 ปี ตั้งแต่ปี 1951 ถึงปี 2000 พบว่าในปีที่ลานีญาเกิดขึ้น ปริมาณน้ำฝนในประเทศไทยมีปริมาณสูงกว่าปกติโดยเฉพาะตั้งแต่ฤดูร้อนถึงฤดูฝน มีรายงานว่าในช่วงครึ่งแรกของฤดูฝนมีฝนตกเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับช่วงอื่นๆ และมีแนวโน้มว่าจะมีอิทธิพลน้อยลงในช่วงครึ่งหลังของฤดูฝน นอกจากนี้ ปรากฏการณ์ลานีญายังส่งผลต่ออุณหภูมิมากกว่าปริมาณน้ำฝน และปรากฏการณ์ลานีญาที่รุนแรงมีแนวโน้มที่จะทำให้อุณหภูมิลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับปีปกติ

รูปด้านล่างแสดงแนวโน้มของ ONI (Ocean Niño Index) ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดการเกิดเอลนีโญ/ลานีญาในอดีตตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นไป (รูปด้านล่าง) จัดพิมพ์โดย National Oceanic and Atmospheric Administration (NOAA) คาบ ONI ต่อเนื่องที่สูงกว่า 0.5 บ่งชี้ถึงปรากฏการณ์เอลนีโญ และคาบต่อเนื่องที่ -0.5 หรือต่ำกว่าหมายถึงการเกิดลานีญา

ล่าสุด ปรากฏการณ์เอลนีโญเกิดขึ้นตั้งแต่กลางปี ​​2023 ถึงต้นปี 2024 แต่ ONI มีแนวโน้มลดลง และ ONI จะเข้าสู่สถานะเป็นกลางในช่วงกลางปี ​​2024 NOAA คาดการณ์ว่าสภาพภูมิอากาศซึ่งขณะนี้อยู่ในสถานะเป็นกลาง จะเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ลานีญาอย่างเต็มรูปแบบ และมีความเป็นไปได้สูงที่ลานีญาจะดำเนินต่อไปอย่างน้อยจนถึงสิ้นปี กรมอุตุนิยมวิทยาในประเทศไทย (TMD) ญี่ปุ่น (สำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น) ออสเตรเลีย (BOM) และประเทศอื่นๆ ได้ประกาศการคาดการณ์ที่คล้ายกันเช่นกัน ตามการคาดการณ์ล่าสุดของ NOAA มีโอกาสมากกว่า 80% ที่ระดับน้ำทะเลเฉลี่ยจะเป็นกลางระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน แต่มีความเป็นไปได้เกือบ 50% หรือสูงกว่าที่ปรากฏการณ์ลานีญาจะเกิดขึ้นในอีกหกเดือนข้างหน้า

การคาดการณ์สภาพภูมิอากาศในช่วงครึ่งหลังปี 2024 และการป้องกัน

   TMD คาดการณ์ว่าปรากฏการณ์ลานีญาได้เริ่มต้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงกันยายน และจะดำเนินต่อไปจนถึงสิ้นปีและเข้าสู่ปีใหม่ เนื่องจากอิทธิพลของปรากฏการณ์ลานีญา คาดว่าปริมาณฝนจะเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ และอุณหภูมิในฤดูหนาว (ประมาณเดือนธันวาคม) คาดว่าจะต่ำกว่าปีที่แล้ว สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติของประเทศไทย (สทนช.) ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทำการปรับปรุงการพยากรณ์ปริมาณน้ำฝน สภาพภูมิอากาศ และพายุหมุนเขตร้อน เพื่อป้องกันความเสียหายขนาดใหญ่ เช่น น้ำท่วมครั้งใหญ่ในปี 2011 ไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีกครั้ง ซึ่งมาตรการรับมือหน้าฝนทั้ง 10 ประการนี้ได้มีการเริ่มลงมือปฏิบัติแล้ว (ดูบทความก่อนหน้าที่เผยแพร่เมื่อเดือนพฤษภาคมของปีนี้)

ขณะที่ร่องมรสุมเข้าใกล้ในเดือนสิงหาคมและกันยายน คาดว่าปริมาณฝนในลุ่มน้ำเจ้าพระยาจะสูงกว่าปกติประมาณ 20%      โดยเฉพาะในพื้นที่ใต้เขื่อนนั้นมีความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่อัตราการไหลของน้ำและระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น ปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในพื้นที่ประวัติศาสตร์ สวนอุตสาหกรรม และพื้นที่เกษตรกรรมบริเวณปลายน้ำเจ้าพระยา สทนช. กำลังเร่งติดตามและจัดการสถานการณ์

มีการกำหนดจุดตรวจติดตามการไหลของแม่น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 จุด ได้แก่ จุดสังเกต Y.4 ที่สุโขทัย จุดสังเกต C.2 ที่นครสวรรค์ จุดสังเกต C.13 ที่เขื่อนเจ้าพระยา และจุดสังเกต C29A ที่อยุธยา

การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (IAET) ได้มีการกำหนดมาตรการป้องกันและแผนการรับมือน้ำท่วมสำหรับอุตสาหกรรม โดยทำการวางแผนมาตรการการรับมือป้องกันจากด้านต่าง ๆ เช่น การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน, การปรับปรุงระบบระบายน้ำ, การกำหนดตำแหน่งพื้นที่รับน้ำชั่วคราว  และการฝึกอบรมมาตรการการรับมือน้ำท่วมในกรณีฉุกเฉิน เพื่อลดความเสียหายของนิคมอุตสาหกรรมและสามารถดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งศูนย์ติดตามและจัดการสิ่งแวดล้อมขึ้นเพื่อติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง นิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทยมีการแบ่งออกเป็นสองกลุ่มคือ นิคมอุตสาหกรรม 15 แห่งที่บริหารจัดการโดย กนอ. และนิคมอุตสาหกรรม 53 แห่งที่บริหารจัดการร่วมกับภาคเอกชน ซึ่ง   กนอ. ได้เสริมสร้างการตอบสนองการป้องกันภัยพิบัติให้กับกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมที่จัดการโดย กนอ. เป็นหลัก

อีกทั้ง กนอ.ยังให้ความสำคัญกับการปรับปรุงมาตรการรับมือน้ำท่วมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เช่น การติดตั้งระบบระบายน้ำ เพิ่มเติมในสวนนิคมอุตสาหกรรมบางปูในปี 2023 ซึ่งเป็นระบบการจัดการน้ำอัจฉริยะและการควบคุมการติดตามที่สามารถตรวจสอบและวิเคราะห์สภาวะต่าง ๆ (SCADA: Supervisory Control and Data Acquisition) สามารถทำการวัดและวิเคราะห์ระดับน้ำได้แบบเรียลไทม์, การจัดการเพื่อส่งน้ำไปยังคลองที่ทอดไปสู่ทะเลเป็นหลักเพื่อลดการระบายน้ำไปยังแหล่งชุมชน และการจัดการเพื่อชดเชยจุดอ่อนของคันดิน มีการกำหนดให้ทำการติดตั้งระบบ SCADA นี้ในนิคมอุตสาหกรรมทั้งหมด แต่เนื่องจากข้อจำกัดด้านงบประมาณ นิคมอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงที่ชัดเจนจึงเป็นเป้าหมายแรกในการติดตั้ง

 

ปริมาณการกักเก็บน้ำในเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิตติ์นั้นมีแนวโน้มลดลงในช่วงต้นปี แต่ทว่ามีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนสิงหาคม ปริมาณการกักเก็บเขื่อนภูมิพลนั้นมีปริมาณต่ำกว่า Low Rule Curve (ค่าพื้นฐานปริมาณน้ำสูงสุด หากค่านี้ต่ำกว่าที่มีการกำหนดจะเข้าสู่การจำกัดการปล่อยน้ำออกจากเขื่อน) เนื่องจากรัฐบาลต้องการควบคุมการปล่อยน้ำออกจากเขื่อนเพื่อรักษาปริมาณน้ำในเขื่อนในช่วงฝนตกหนัก ในด้านเขื่อนสิริกิตติ์นั้นยังคงสูงขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้ว่ามีปริมาณที่ต่ำกว่าในปี 2011 แต่ยังคงสูงกว่าระดับน้ำในปี 2022

ปริมาณการกักเก็บน้ำในเขื่อนแควน้อยและป่าสักนั้นเพิ่มขึ้นตั้งเดือนปลายเดือนกรกฏาคม มีปริมาณน้ำน้อยกว่าปี 2022 และ 2021 แต่ทว่าปริมาณการกักเก็บน้ำในเขื่อนป่าสักนั้นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเทียบเท่ากับระดับน้ำในปี 2011 เขื่อนทั้งสองแห่งนั้นเมื่อเปรียบเทียบจากข้อมูลในอดีตแล้วมีแนวโน้มที่ปริมาณการกักเก็บน้ำเพิ่มขึ้นในเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคม และอัตราการกักเก็บน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นไปจนถึงช่วงท้ายของฤดูฝน

สถานการณ์กระแสน้ำบริเวณตอนบนของลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา (ด้านเหนือของเขื่อนเจ้าพระยา)

ส่วนหนึ่งของแม่น้ำปิง, แม่น้ำวัง, แม่น้ำยม และแม่น้ำน่านเพิ่มขึ้นไปจนถึงระดับ Critical และมีปริมาณไหลของน้ำที่สูง แต่ทว่าในบริเวณอื่นไม่มีสถานการณ์ใดที่สามารถนำไปสู่น้ำท่วมได้ในช่วงนี้

(หมายเหตุ)

– ตัวเลขสีดำในแม่น้ำ: อัตราการไหลของแม่น้ำ (ลูกบาศก์เมตร/วินาที) ตัวเลขในวงเล็บ: อัตราการไหลของน้ำ(ลูกบาศก์เมตร/วัน)
– ตัวเลขที่ขีดเส้นใต้และมี (+) หรือต่ำกว่า (-): ความห่างของระดับน้ำจากเขื่อนกั้นน้ำ (หากเลขเป็น 0 จะเกิดน้ำท่วม)
– ระดับน้ำ U/S และ D/S มีหน่วยเป็นเมตร

สถานการณ์กระแสน้ำบริเวณตอนล่างของลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา (ด้านใต้ของเขื่อนเจ้าพระยา)

บริเวณตอนล่างของลุ่มแม่น้ำเจ้ายานั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัด จึงไม่มีสถานการณ์ใดที่สามารถนำไปสู่น้ำท่วมได้ในช่วงนี้

(หมายเหต)  

– ตัวเลขสีดำในแม่น้ำ: อัตราการไหลของแม่น้ำ (ลูกบาศก์เมตร/วินาที) ตัวเลขในวงเล็บ: อัตราการไหลของน้ำ(ลูกบาศก์เมตร/วัน)
– ตัวเลขที่ขีดเส้นใต้และมี (+) หรือต่ำกว่า (-): ความห่างของระดับน้ำจากเขื่อนกั้นน้ำ (หากเลขเป็น 0 จะเกิดน้ำท่วม)
– ระดับน้ำ U/S และ D/S มีหน่วยเป็นเมตร

สถานการณ์ของอ่างเก็บน้ำหลักในภาคตะวันออก (จังหวัดชลบุรี)

 

อ่างเก็บน้ำหลักในจังหวัดชลบุรีนั้นมีปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่เข้าฤดูฝน ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำบางพระนั้นสูงกว่าช่วงเดียวกันในปี 2015 และ 2023 แต่ทว่าปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำหนองค้อนั้นอยู่ในปริมาณที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2020 ซึ่งอ่างเก็บน้ำทั้งสองแห่งนั้นมีแนวโน้มที่จะมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคม จึงคาดว่าจะมีอัตราการกักเก็บน้ำที่เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆจนถึงช่วงท้ายของฤดูฝน

สถานการณ์ของอ่างเก็บน้ำหลักในภาคตะวันออก (จังหวัดระยอง)

 

อ่างเก็บน้ำหลักในจังหวัดระยองนั้นมีปริมาณน้ำที่มีแนวโน้มลดลงถึงกลางเดือนพฤษภาคม ซึ่งจัดได้ว่าเป็นระดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2021 แต่ทว่ามีปริมาณการกักเก็บน้ำที่เพิ่มขึ้นตามปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่เข้าฤดูฝน อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหลนั้นมีปริมาณกักเก็บน้ำที่สูงขึ้นเกือบเทียบเท่าปริมาณน้ำในปี 2023 ส่วนอ่างเก็บน้ำดอกกรายนั้นเริ่มมีปริมาณน้ำที่สูงขึ้นกว่าปี 2021 และ 2023 ซึ่งอ่างเก็บน้ำทั้งสองแห่งนั้นมีแนวโน้มที่จะมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคม

สถานการณ์การเกิดน้ำท่วม (ช่วงครึ่งหลังเดือนกรกฏาคมไปจนถึงครึ่งแรกของเดือนสิงหาคม)

ณ ปัจจุบันมีรายงานการเกิดเหตุน้ำท่วมมากกว่า 30 เคสในประเทศไทย ในช่วงต้นเดือนสิงหาคมนั้นส่วนหนึ่งในพื้นที่ภาคตะวันออก (จังหวัดปราจีนบุรี, นครนายก, จันทบุรี, ตราด) นั้นเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมเป็นจำนวนมาก ซึ่งสื่อมีการหยิบยกรายงานความเสียหายจากน้ำท่วมที่เกิดขึ้นจากน้ำท่วมฉับพลัน (Flash Flood) ใน อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่อย่างกว้างขวาง หลังจากนั้นในคืนวันที่ 4 สิงหาคม เกิดความเสียหายจากน้ำท่วมในบริเวณแหล่งชุมชนและบริเวณพื้นที่เชิงพาณิชย์ (บริเวณรีสอร์ทหลังเขื่อน) จึงมีข่าวรายงานอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมในตัวอำเภอเมืองจังหวังนครนายก สาเหตุที่เกิดน้ำท่วมฉับพลันนั้นมีการคาดการณ์ในช่วงแรกว่ามาจากการปล่อยปริมาณน้ำที่มากเกินไปจากอ่างเก็บน้ำขุนด่านปราการชัย แต่ทว่าหลังจากนั้นจึงทราบได้ว่าสาเหตุมาจากประตูน้ำที่บริเวณอ่างเก็บน้ำขุนด่านปราการชัยนั้นชำรุด อีกทั้งเกิดฝนตกหนักในบริเวณทิศเหนือในจังหวัดนครนายก ทำให้น้ำในทางน้ำหลักไหลทะลักเข้าสู่แหล่งชุมชนและพื้นที่เกษตรกรรมหลายแห่งในเมืององครักษณ์ เพื่อบรรเทาสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นกองทัพเรือได้มีการติดตั้งเรือผลักดันน้ำจำนวน 30 ลำในเมืององครักษณ์เพื่อเร่งระบายน้ำไปยังอ่าวไทย ในทางกลับกันพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมหลักเช่น จังหวัดปราจีนบุรีนั้น ณ วันที่ 20 สิงหาคมยังไม่มีรายงานข่าวในเรื่องน้ำท่วมแต่อย่างใด

ภาพด้านล่างนั้นเป็นแผนภาพที่แสดงบริเวณที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมในภาคตะวันออก ที่ทางสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA : GEO-INFORMATICS AND SPACE TECHNOLOGY DEVELOPMENT AGENCY)ได้มีการเผยแพร่ ณ วันที่ 1 สิงหาคม 2024

อ้างอิง
http://www.arcims.tmd.go.th/dailydata/yearRain.php
https://www.tmd.go.th/forecast/monthlyล
https://www.tmd.go.th/media/climate/climate-monthly/newsaso_2024_english.pdf
https://www.climate.gov/news-features/understanding-climate/climate-variability-oceanic-nino-index https://www.cpc.ncep.noaa.gov/products/analysis_monitoring/lanina/enso_evolution-status-fcsts-web.pdf
http://water.rid.go.th/flood/flood/daily.pdf
https://www.thaiwater.net/water/dam/large
http://water.rid.go.th/flood/plan_new/chaophaya/Chao_up20082024.jpg
http://water.rid.go.th/flood/plan_new/chaophaya/Chao_low20082024.jpg
https://www.thansettakij.com/business/economy/599751#google_vignette
https://www.prachachat.net/economy/news-1608760
https://www.bangkokbiznews.com/health/social/1134011
https://www.bangkokbiznews.com/news/news-update/1131732
https://www.bangkokbiznews.com/news/news-update/1131415
https://www.eastwater.com/th/Customer/WeeklyWaterSituationDetails/449
https://www.gistda.or.th/news_view.php?n_id=8019&lang=TH
https://www.matichon.co.th/region/news_4724038
https://www.thaipbs.or.th/news/content/342875
https://www.bangkokbiznews.com/news/1139789

_______________________________________________________________________

MS&AD InterRisk Research & Consulting, Inc. is a risk-related service company of the MS&AD Insurance Group, which conducts consulting related to risk management and research in a wide range of fields.
InterRisk Asia (Thailand) Co., Ltd. is a risk management company based in Bangkok, Thailand. We provide various risk consulting services in Southeast Asian countries, including fire risk surveys, natural disaster and industrial accident risk surveys for factories, warehouses, commercial facilities, etc., traffic risks, BCP Establishment support, cyber risks, etc.
For inquiry, please feel free to contact the below information, or nearest Mitsui Sumitomo Insurance or Aioi Nissay Dowa Insurance sales representatives.
MS&AD InterRisk Research & Consulting, Inc.
International Section, Risk Consulting Division
TEL. +66-(0)-3-5296-8920
https://www.irric.co.jp/en/corporate/index.php
InterRisk Asia (Thailand) Co., Ltd.
175 Sathorn City Tower, South Sathorn Road, Thungmahamek, Sathorn, Bangkok, 10120, Thailandฅ
TEL: +66-(0)-2679-5276
FAX: +66-(0)-2679-5278
https://www.interriskthai.co.th/
The purpose of this report is to provide our customers with the useful information for the occupational safety and health management. There is no intention to criticize any individuals and parties etc.

 

AUTHOR

Hayaki Ezaki